ข่าวสัมมนา - CGTN: การพึ่งพาตนเองมากยิ่งขึ้น ความแข็งแกร่งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คือสิ่งที่จำเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพสูง
การพัฒนาคุณภาพสูงที่นำมาซึ่งนวัตกรรม ความร่วมมือ การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเปิดกว้าง ตลอดจนการพัฒนาสำหรับทุกคน เป็นหนึ่งในบรรดาคำพูดติดปากระหว่างการประชุม 2 สภาที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงไป ซึ่งกำหนดลำดับความสำคัญของการพัฒนาในปี 2566 สำหรับประเทศเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกอย่างจีน
ขณะเข้าร่วมการอภิปรายกับผู้แทนสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) จากคณะผู้แทนของมณฑลเจียงซูนั้น ในระหว่างการประชุม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพสูง โดยเรียกว่าเป็นงาน "ชิ้นสำคัญที่สุดก่อนอื่นใด" ในความพยายามสร้างความเป็นสมัยใหม่ของจีน ปธน.สีชี้ให้เห็นว่า การเร่งความพยายามเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพึ่งพาตัวเองมากขึ้นและความแข็งแกร่งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคือเส้นทางที่ประเทศต้องดำเนินไปเพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูง
จีนควรดำเนินการเพื่อให้บรรลุการพึ่งพาตัวเองให้มากยิ่งขึ้น และเพื่อบรรลุความแข็งแกร่งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงและการยกระดับอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนการพัฒนาส่วนภูมิภาคที่สอดประสานกันระหว่างเมือง-ชนบท และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีการปล่อยคาร์บอนต่ำ โดยปธน.สีเน้นย้ำถึงเรื่องนี้ในระหว่างการกล่าวปิดการประชุมสภาแรกของการประชุม NPC ครั้งที่ 14 ในวันจันทร์ (13 มี.ค.)
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เฉียง ยังได้ให้คำมั่นว่าจะเน้นความพยายามในการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูง โดยจีนจะเพิ่มขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเทคโนโลยี เร่งสร้างระบบอุตสาหกรรมสมัยใหม่ และก้าวไปสู่การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนมีความก้าวหน้าในการส่งเสริมงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนา ขยายการผลิตพลังงานสะอาด และหล่อเลี้ยงเสาหลักแห่งการเติบโตด้วยกลยุทธ์การพัฒนาส่วนภูมิภาค ควบคู่ไปกับความก้าวหน้าในด้านอื่น ๆ เพื่อแสวงหาการเติบโตร่วมกันที่เป็นนวัตกรรม เชื่อมโยงถึงกันและกัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเปิดกว้าง
นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช่วยสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพสูงของจีน
ในช่วงต้นปี 2557 ในระหว่างเดินทางตรวจงานที่มณฑลเจียงซูนั้น ปธน.สีได้เน้นย้ำถึงบทบาทของนวัตกรรมในการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยกล่าวว่าจีนต้องพึ่งพานวัตกรรมเพื่อให้บรรลุการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและมั่นคง
จากรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลปี 2566 จีนดำเนินกลยุทธ์การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมอย่างเต็มที่ ตลอดจนปรับปรุงและยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า จีนส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่แท้จริงผ่านนวัตกรรมและยังคงสนับสนุนปัจจัยใหม่ ๆ ในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บทบาทนำของนวัตกรรมเทคโนโลยีได้รับการส่งเสริม รายงานยังเสริมว่า จีนได้เปิดตัวโครงการนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สำคัญเป็นจำนวนมาก และเพิ่มขีดความพยายามในการรักษาความก้าวหน้าในเทคโนโลยีหลักในภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีความสำคัญ
ในการแสวงหาการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง จีนยังได้ทุ่มเทในนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในฐานะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโต ในปี 2565 จีนใช้งบประมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 3.09 ล้านล้านหยวน (4.49 แสนล้านดอลลาร์) ในการวิจัยและพัฒนา เพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นผลมาจากที่จีนพยายามเร่งรัดเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
จีนได้รับการจัดอันดับในดัชนีนวัตกรรมโลก (Global Innovation Index) กระโดดจากอันดับที่ 34 ในปี 2555 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 11 เมื่อปีที่แล้ว โดยเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราเฉลี่ย 6.6% ต่อปีในช่วงปี 2556-2564 ซึ่งมีส่วนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกมากกว่า 30%
จีนแบ่งปันนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เป็นสินค้าสาธารณะทั่วโลก
เมื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จีนยังมุ่งมั่นที่จะแบ่งปันเทคโนโลยีของตนกับพันธมิตรต่าง ๆ ทั่วโลก และร่วมมือกันเพื่อปรับปรุงการกำกับดูแลด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับโลก
ด้วยเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงที่ยาวที่สุดและใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก ทางจีนได้ให้ความช่วยเหลือแก่หลายประเทศในการสร้างและยกระดับการขนส่งทางรถไฟด้วยเทคโนโลยีรถไฟขั้นสูง คุณมาร์ติน ไรเซอร์ รองประธานธนาคารโลกประจำภูมิภาคเอเชียใต้ กล่าวว่า เทคโนโลยีระบบการรถไฟของจีนนั้น จะนำมาซึ่งการพัฒนาเมือง การท่องเที่ยว และการเติบโตทางเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาค
เช่น ทางรถไฟจีน-ลาว จากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการในเดือนธันวาคม 2564 ประเทศลาวที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลได้กลายเป็นฮับเชื่อมโยงทางบกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วยให้ทางรถไฟทางฝั่งลาวได้สร้างโอกาสให้ประชาชนในท้องถิ่นมีงานทำมากกว่า 110,000 ตำแหน่ง
ด้วยกลไกพหุภาคี เช่น โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ความสำเร็จด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนได้นำเสนอทางเลือกใหม่ในเทคโนโลยีการสื่อสาร 5G, ชีวเวชศาสตร์ และด้านต่าง ๆ อีกมากมาย ในขณะเดียวกันก็สร้างโมเมนตัมการเติบโตอีกด้วย
ระบบดาวเทียมนำทางเป๋ยโต่ว (BeiDou Satellite - BDS) ของจีน เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และบริการของจีนที่ได้นำไปใช้ในกว่า 120 ประเทศและภูมิภาค
เอกสารนำเสนอข้อมูลในชื่อ "ระบบดาวเทียมนำทางเป๋ยโต่วของจีนในยุคใหม่" ซึ่งตีพิมพ์ไว้ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ระบุว่า จีนได้จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมและแอปพลิเคชัน BDS ในต่างประเทศ และมุ่งมั่นที่จะสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับอุตสาหกรรมการนำทางด้วยดาวเทียม
เอกสารดังกล่าวยังระบุว่า จีนกำลังกระชับความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ระดับภูมิภาค เช่น อาเซียน, สหภาพแอฟริกา, สันนิบาตอาหรับ และประชาคมลาตินอเมริกาและแคริบเบียน และจะเปิดตัวโซลูชันที่ใช้ระบบดาวเทียมนำทางเป๋ยโต่ว ในด้านสมาร์ตซิตี้, ความปลอดภัยสาธารณะ, การเกษตรแม่นยำ, การขนส่งดิจิทัล และการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งกำลังนำร่องในเอเชีย, แอฟริกา และลาตินอเมริกา
https://news.cgtn.com/news/2023-03-13/Speeding-up-self-reliance-in-sci-tech-a-path-to-high-quality-development-1i8T09vixbi/index.html