ข่าวบ้าน, คอนโด, อสังหาฯ - LPP ตอกย้ำการร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมและลดปัญหาโลกร้อน รวมพลังลูกบ้านร่วม “60+ Earth Hour 2023” ปิดไฟ 1 ชม. ลดโลกร้อน รักษ์โลกเรา
บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด ชวนผู้อยู่อาศัยแสดงพลังรักษ์โลกผ่านโครงการ “60+ EARTH HOUR” ร่วมใจปิดไฟลดใช้พลังงานไฟฟ้า 1 ชั่วโมง เผยตัวเลขหลังกิจกรรมช่วยลดไฟฟ้ากว่า 2,354 kWh พร้อมขับเคลื่อนแนวทางปฏิบัติต่อเนื่องโดยร่วมกับ “Recycle Day” ส่ง 6 โครงการนำร่องเปลี่ยนขยะให้เป็นสิ่งที่มีมูลค่า สามารถลดคาร์บอนฟุต พริ้นท์ได้กว่า 12,972.22 kg CO2 eq หรือเทียบได้กับการปลูกต้นไม้ 1,370 ต้น
นางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) บริษัทบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสำคัญในเรื่องของนโยบายการรักษาสิ่งแวดล้อมและการร่วมลดปัญหาภาวะโลกร้อนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เชิญชวนผู้อยู่อาศัย เจ้าของร่วม และผู้ใช้อาคารกว่า 250 โครงการที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ LPP เข้าร่วมโครงการ “ปิดไฟ 1 ชั่วโมงเพื่อลดโลกร้อน” (60+ Earth Hour 2023) โดยเชิญชวนให้ร่วมปิดไฟบริเวณพื้นที่ที่ไม่จำเป็นเพื่อลดพลังงานไฟฟ้าตั้งแต่เวลา 20.30 - 21.30 น. ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่บริษัทได้ให้ความสำคัญและรณรงค์อย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 16 โดยการเชิญชวนผู้พักอาศัยเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้สามารถลดการใช้พลังงานการไฟฟ้ารวมกันได้ 2,354 กิโลวัตต์ / ชั่วโมง (kWh) คิดเป็นมูลค่า 13,394 บาท และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1,370.26 kgCO2e
“การสานต่อโครงการดังกล่าวถือเป็นการแสดงเจตนารมณ์และตอบโจทย์นโยบายบริหารโครงการของ LPP ที่เน้นย้ำให้เกิดการตระหนักถึงความสำคัญเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งเราจะต้องเริ่มตั้งแต่การกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกและความร่วมมือแก่บุคลากรภายในองค์กร แล้วจึงนำไปสู่การสร้างวัฒนธรรมความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมและพัฒนาสังคมที่ดีให้แก่ผู้อยู่อาศัยอย่างยั่งยืนได้ ซึ่งเมื่อทุกฝ่ายต่างมีจิตสำนึกและรับรู้ถึงแนวทางร่วมกันแล้วนั้น ก็เชื่อว่าเราจะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่สามารถช่วยกันบรรเทาและรับมือกับปัญหาโลกร้อนได้ดีขึ้นเช่นกัน”
นอกจากกิจกรรม 60+ Earth Hour 2023 แล้วนั้น LPP ยังเดินหน้าขับเคลื่อนพลังรักษ์โลกด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายให้มีจิตสำนึกในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมพร้อมแนวทางแก้ไขในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ การเข้าร่วมโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนขององค์กรปกครองท้องถิ่น
ในการจัดการถังขยะครบ 4 ประเภทในแต่ละชั้น ได้แก่ ขยะทั่วไป ขยะรีไซเคิล ขยะเปียก และขยะอันตราย การร่วมสนับสนุนกิจกรรม Action Day PM2.5 BKK โครงการ "กทม. ชวนภาคีขยับเรื่อง ฝุ่นเมือง ด้วยกัน" โดยรณรงค์ให้มีพื้นที่สีเขียวเพื่อลดการเกิดฝุ่นละออง ลดโลกร้อน และก๊าซเรือนกระจก ฯลฯ
นางสาวสมศรี กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์สิ่งแวดล้อมโลกในปัจจุบันที่มีความแปรปรวนค่อนข้างสูงและส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งปัญหาโลกร้อน มลพิษทางอากาศ ฝุ่น PM2.5 การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัญหาการจัดการขยะ ฯลฯ ซึ่งล้วนมาจากพฤติกรรมของมนุษย์ทั้งสิ้น จากปัญหาดังกล่าวนี้ LPP มีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนแนวทางปฏิบัติ และพัฒนาระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน อาทิ การจัดการคัดแยกขยะแบบครบวงจร ที่มีเป้าหมายให้มีการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางสู่การจัดการปลายทางอย่างถูกต้องและเปลี่ยนขยะให้เป็นสิ่งที่มีมูลค่า โดยร่วมกับ “Recycle Day” ผู้ให้บริการนัดหมายรถรับซื้อขยะรีไซเคิล ผ่าน Application บนสมาร์ทโฟน และนำขยะไปจัดการให้เกิดประโยชน์ ซึ่งจากการที่ LPP ได้เริ่มโครงการนำร่องในการคัดแยกขยะแบบครบวงจร ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - ธันวาคม 2565 ในคอนโดมิเนียม 6 โครงการ ได้แก่ ลุมพินี คอนโดทาวน์ บดินทรเดชา - รามคำแหง ลุมพินี พาร์ค วิภาวดี-จตุจักร ลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 44 ลุมพินี วิลล์ รามคำแหง 60/2 ลุมพินี วิลล์ ลุมพินี วิลล์ ศูนย์วัฒนธรรม ลุมพินี สวีท ดินแดง - ราชปรารภ โดยมีการคัดแยกและรวบรวมวัสดุรีไซเคิลได้ทั้งสิ้น 6,489.23 กิโลกรัม คิดเป็นยอดรวม 14,811.78 คะแนน ซึ่งเทียบได้กับสัดส่วนการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้จากกิจกรรมดังกล่าวเป็นจำนวน 12,972.22 kg CO2 eq หรือเทียบได้กับการปลูกต้นไม้ 1,370 ต้น “จากผลลัพธ์ดังกล่าว LPP จึงมีแผนที่จะขยายการดำเนินการโดยทำการเชิญชวนให้ทุกโครงการที่ LPP บริหารจัดการเข้าร่วม “การจัดการคัดแยกขยะแบบครบวงจร” ซึ่งนอกจากจะบริหารจัดการขยะให้เกิดประโยชน์แล้วยังถือเป็นการดูแลสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”
LPP เชื่อว่าจากความมุ่งมั่นผลักดันนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมละความรับผิดชอบต่อสังคม จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างวัฒนธรรมการรักษ์โลกให้แก่ผู้อยู่อาศัยและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้มองเห็นความสำคัญ เกิดความห่วงใยใส่ใจโครงการ ชุมชน สังคมรอบข้าง และมีส่วนร่วมในการสร้างโลกและอนาคตที่ดีกว่าไปด้วยกัน