บูดาเปสต์, ฮังการี, 13 พ.ค. 2567 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- มหกรรม China International Supply Chain Promotion Expo ครั้งที่ 2 ได้เปิดตัวกิจกรรมโรดโชว์ในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี โดยได้รับเกียรติเข้าร่วมจาก Ren Hongbin ประธานสภาจีนเพื่อการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (CCPIT) และดร. László Parragh ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมฮังการี (HCCI) พร้อมด้วยตัวแทนจากบริษัทชั้นนำและสมาคมการค้าของฮังการี

ประธาน Ren เน้นย้ำถึงขีดความสามารถด้านห่วงโซ่อุปทานที่ส่งเสริมกันของจีนและฮังการี โดยระบุว่าการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างผู้ผลิตในทั้งสองประเทศจะสามารถเสริมสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้ในภาคอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้ CCPIT และกระทรวงการต่างประเทศและการค้าของฮังการีได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทาน ขณะที่ฮังการีจะเข้าร่วมมหกรรมที่กำลังจะมีขึ้นนี้ในฐานะแขกผู้ทรงเกียรติ การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์นี้คาดว่าจะเพิ่มการทำงานร่วมกันในภาคส่วนต่าง ๆ เช่นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และพลังงานหมุนเวียน พร้อมอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นและผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย

ดร. Parragh เน้นย้ำถึงความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนระหว่างจีนและฮังการี ซึ่งจะช่วยยกระดับปฏิสัมพันธ์ระดับทวิภาคีในอุตสาหกรรมและภาคส่วนต่าง ๆ อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่กลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางของจีนที่กำลังแสวงหาสินค้าและบริการคุณภาพสูงนั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ มอบโอกาสที่สำคัญสำหรับบริษัทในฮังการีในการคิดค้นและมีส่วนร่วมในการร่วมทุน ทั้งนี้ HCCI จะอาศัยโอกาสนี้ในการอำนวยความสะดวกให้กับฮังการีเพื่อเข้าร่วมมหกรรมครั้งที่สองที่กำลังจะมีขึ้นนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเจาะตลาดจีนให้ลึกยิ่งขึ้น

มหกรรมครั้งนี้ซึ่งจัดโดย CCPIT ถือเป็นงานระดับชาติงานแรกของโลกที่มุ่งเน้นด้านห่วงโซ่อุปทาน โดยในมหกรรมครั้งแรกที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตฮังการีในประเทศจีนได้ใช้โอกาสในการนำเสนอแบรนด์ระดับประเทศชั้นนำของฮังการี โดยเน้นการลงทุนทางการค้า การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี พร้อมจัดแสดงความสำเร็จที่มีร่วมกันและโอกาสที่เป็นไปได้ในภาคส่วนห่วงโซ่อุปทานระหว่างทั้งสองประเทศ

สำหรับมหกรรมครั้งที่สองซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-30 พฤศจิกายน ที่กรุงปักกิ่ง ภายใต้แนวคิด Connecting The World For A Shared Future (เชื่อมโลกเข้าด้วยกันเพื่ออนาคตร่วมกัน) จะประกอบด้วยห่วงโซ่อุปทานหลักในการผลิตขั้นสูง พลังงานสะอาด ยานพาหนะอัจฉริยะ เทคโนโลยีดิจิทัล ไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพ และเกษตรกรรมสีเขียว เสริมด้วยพื้นที่จัดแสดงการบริการสำหรับห่วงโซ่อุปทานโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังประกอบด้วยกิจกรรมเสริมเช่นการส่งเสริมการลงทุน การจับคู่อุปสงค์และอุปทาน และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ขณะที่ความพยายามในการดึงดูดผู้จัดแสดงสินค้าและนักลงทุนกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยได้รับความสนใจอย่างมากจากบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก

เรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมหกรรมได้ที่ https://en.cisce.org.cn/