ข่าวไลฟ์สไตล์ - รายงานล่าสุดเผยยอดจัดส่งโมดูลขนาด 210 มม. เกิน 120 กิกะวัตต์แล้ว ส่วนกำลังผลิตผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่มีสัดส่วนกว่า 90% โดยทรินา โซลาร์ ติดอันดับด้วย
เทรนด์ฟอร์ซ (TrendForce) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระด้านการวิจัยพลังงานใหม่เปิดเผยรายงานล่าสุดว่า ยอดจัดส่งสะสมของโมดูลขนาด 210 มม. เกิน 120 กิกะวัตต์ และกำลังไฟฟ้าของโมดูลชนิด n-type ขนาด 210 มม. เกินกว่า 700 วัตต์แล้ว ขณะเดียวกัน เทรนด์ฟอร์ซได้ประมาณการในรายงานว่าในปี 2566 เวเฟอร์ เซลล์ และโมดูลขนาดใหญ่จะมีสัดส่วนมากกว่า 90% ของกำลังการผลิตทั้งหมด และความต้องการผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่จะมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง
กำลังการผลิตจะเกิน 90% โดยโมดูลขนาด 210 มม. คิดเป็นเกือบ 60% ของกำลังการผลิตทั้งหมด
ในส่วนของเวเฟอร์นั้น เทรนด์ฟอร์ซคาดว่าความต้องการเวเฟอร์ขนาดใหญ่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2566 โดยส่วนแบ่งตลาดจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 83.45% ในปี 2565 เป็น 95.74% ในปี 2566 กำลังการผลิตของเวเฟอร์ขนาดใหญ่จะแตะที่ 792.4 กิกะวัตต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความต้องการเวเฟอร์ขนาดใหญ่มากขึ้น ในขณะที่กำลังการผลิตเวเฟอร์ขนาด 210 มม. จะแตะที่ 320.8 กิกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 74.6% โดยมีส่วนแบ่งตลาด 38.76%
ในส่วนของเซลล์ กำลังผลิตของเซลล์ขนาดใหญ่จะสูงถึง 822.3 กิกะวัตต์ ในปี 2566 ซึ่งคิดเป็น 94.99% ของกำลังผลิตทั้งหมด ส่วนกำลังผลิตของเซลล์ขนาด 210 มม. จะแตะระดับ 587.75 กิกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 83.7% จากปี 2565 โดยมีส่วนแบ่งตลาด 67.9%
ส่วนโมดูลนั้น เทรนด์ฟอร์ซคาดการณ์ว่ากำลังการผลิตโมดูลขนาดใหญ่จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2566 แตะระดับ 767 กิกะวัตต์ โดยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 90% ในจำนวนนั้น กำลังการผลิตของโมดูลขนาด 210 มม. จะสูงถึง 508 กิกะวัตต์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 68.14% จากปี 2565 โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 59.62% บ่งชี้ว่ามีการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มการประมูลโครงการ: โมดูลพลังงานสูงจะเป็นที่ต้องการมากกว่า โดยโมดูลขนาดใหญ่คิดเป็น 89.21%
ในแง่ของแนวโน้มการประมูลโครงการ โปรเจกต์ต่าง ๆ เลือกใช้โมดูลขนาดใหญ่อย่างชัดเจน โดยข้อมูลของเทรนด์ฟอร์ซระบุว่า โมดูลกำลังไฟฟ้าสูงกำลังเป็นที่ต้องการในกลุ่มการจัดหาโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์แบบรวมศูนย์เกือบ 129 กิกะวัตต์ ที่ประกาศโดยศูนย์ความเป็นเลิศ (COE) และรัฐวิสาหกิจในปี 2565 โดยมีโมดูลขนาดใหญ่จะเป็นที่ต้องการมากที่สุด โครงการที่กำลังประมูลกว่า 115 กิกะวัตต์ต้องการโมดูลขนาด 182/210 มม. โดยเฉพาะ คิดเป็น 89.21% บ่งชี้ถึงความต้องการโมดูลขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของห่วงโซ่อุตสาหกรรมในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ
การจัดส่งของผู้ผลิตโมดูลชั้นหนึ่งในปี 2565 ทั้งหมดเกิน 40 กิกะวัตต์ และยอดจัดส่งสะสมของโมดูลขนาด 210 มม. เกิน 120 กิกะวัตต์
ข้อมูลจากเทรนด์ฟอร์ซระบุว่า การจัดส่งของผู้ผลิตโมดูล 6 อันดับแรกในปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 205-211 กิกะวัตต์ ซึ่งคิดเป็น 76-78% ของความต้องการโมดูลทั้งปีที่ 270 กิกะวัตต์ ในจำนวนนั้น ลอนจี (LONGi), ทรินา โซลาร์ (Trina Solar) และจิงโกะโซลาร์ (JinkoSolar) ต่างมีการจัดส่งมากกว่า 40 กิกะวัตต์ ในปี 2565 การจัดส่งโมดูลขนาดใหญ่ขยายตัวในอัตราที่เร็วขึ้น โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของการจัดส่งทั้งหมด ณ ไตรมาสแรกของปี 2566 ยอดจัดส่งสะสมของโมดูลขนาด 210 มม. เกินกว่า 120 กิกะวัตต์ การจัดส่งโมดูลขนาดใหญ่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของตลาดและกำลังการผลิตที่ขยายตัวขึ้น
การพัฒนาเทคโนโลยี: การรวมกันของโมดูลขนาด 210 มม. และเทคโนโลยีโมดูลชนิด n-type รองรับกำลังไฟฟ้าได้เกิน 700 วัตต์
การรวมกันของโมดูลขนาดใหญ่และเทคโนโลยีโมดูลชนิด n-type ได้กลายเป็นแนวโน้มที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ กำลังไฟฟ้าของโมดูลชนิด n-type ขนาด 182 มม. เพิ่มขึ้นจากกว่า 500 วัตต์ เป็นกว่า 600 วัตต์ ในขณะที่กำลังไฟฟ้าของโมดูลชนิด n-type ขนาด 210 มม. นั้นเกินกว่า 700 วัตต์
ด้วยผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วและเทคโนโลยีขั้นสูงต่าง ๆ เช่น n-type ต่างพร้อมใช้งานแล้ว ทำให้ผลิตภัณฑ์ขนาด 210 มม. ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์หลักในอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์และจะยังคงครองตลาดต่อไป
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2053645/image_805511_31743662.jpg
คำบรรยายภาพ - รูป: อัตราส่วนกำลังผลิตของเวเฟอร์แต่ละขนาดระหว่างปี 2565-2569 (หน่วย: %)
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2053646/image_805511_31743771.jpg
คำบรรยายภาพ - รูป: อัตราส่วนกำลังผลิตของเซลล์ขนาดใหญ่ (หน่วย: %)
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2053647/image_805511_31743849.jpg
คำบรรยายภาพ - รูป: ส่วนแบ่งตลาดของโมดูล (หน่วย: %)
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2053648/image_805511_31743927.jpg
คำบรรยายภาพ - รูป: การจัดส่งของผู้ผลิตโมดูลชั้นนำ (หน่วย: กิกะวัตต์)