ข่าวไลฟ์สไตล์ - บียอนด์ เทรนนิ่ง ชี้ผู้นำยุคใหม่ต้อง "เก่งงาน เก่งคน เท่าทันเทรนด์โลก"
ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมพัฒนาคนในองค์กรชั้นนำเมืองไทยเผยถึง การเปลี่ยนแปลงธุรกิจยุคใหม่ว่า ทักษะคนทำงานยุคเดิมกำลังจะหมดไป โดยเฉพาะทักษะด้านความเป็นผู้นำ ส่งผลให้ “ทักษะผู้นำยุคใหม่ หรือ Adaptive Leadership Skill ” กลายมาเป็น “ทักษะสำคัญเร่งด่วน” ที่ต้องเร่งพัฒนาหัวหน้ายุคดิจิทัล พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจะหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องมี Adaptive Leadership ความเป็นผู้นำยุคใหม่ต้อง “เก่งงาน เก่งคน เท่าทันเทรนด์โลก” เป็นฟันเฟืองสำคัญสร้างองค์กรให้เติบโตแบบก้าวกระโดดในยุคดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบ…
ภก. คงเกียรติ ฉัตรหิรัญทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บียอนด์ เทรนนิ่ง จำกัด ผู้นำด้านการฝึกอบรมพัฒนาคนในองค์กรชั้นนำของไทย เผยว่า จากนิตยสาร Forbes “Human Resources Council จำนวน 14 ท่าน” ได้ระบุถึง 14 ความท้าทายที่หัวหน้ามือใหม่ต้องเผชิญในช่วงปี 2022 และอนาคต ที่สอดคล้องกับสังคมการทำงานในไทยว่า นับจากวันนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายโดยเฉพาะแนวคิดจาก “ผู้ทำ เป็น ผู้นำ” ส่งผลให้หัวหน้าต้องปรับแนวคิดครั้งใหญ่ จากการลงมือทำเอง เป็นสร้างผลงานผ่านทีม เพื่อให้หัวหน้างานไปทำสิ่งที่สำคัญกว่าและสร้าง Impact ต่อองค์กร ฉะนั้น หัวหน้างานต้องเริ่มเรียนรู้ “ทักษะหัวหน้ายุคใหม่” ซึ่งเป็นหัวใจเป็นมันสมองของธุรกิจในยุคดิจิทัล
พร้อมกันนี้ “การพลิกรูปแบบการสื่อสาร เชื่อมคนในทีมและ Stakeholders หัวหน้างานที่มีประสิทธิภาพ คือ ต้องรู้จักทีมว่าใครมีความสามารถอะไร? รู้วิธีสื่อสารให้ทีมเข้าใจ และประสานงานกับแผนกอื่นๆได้ ปรับบทบาทเป็นผู้นำที่พร้อมสนับสนุนและสร้างแรงผลักดันให้กับลูกทีมได้ในโลกของการทำงานไม่มีอะไรแน่นอน พนักงานในทีมแต่ละคนมีปัญหาที่แตกต่างกัน หัวหน้างานจึงต้องปรับบทบาทเป็นผู้ซัพพอร์ตสร้างกำลังใจ เป็นโค้ชฯอย่างเต็มที่ รับมือกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งกุญแจสำคัญช่วยปลดล็อกความคิดและพัฒนาทักษะของหัวหน้าคือ Adaptive Leadership Skill “
ทั้งนี้… ผู้นำยุคใหม่ที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง” (Adaptive Leadership) ซึ่งอ้างอิงจากหนังสือ The Practice of ADAPTIVE LEADERSHIP: Tools and Tactics for Changing Your Organization and the World ถึงบุคลิกลักษณะของผู้นำฯ มี 6 ข้อที่น่าสนใจ คือ
1.Get on the Balcony การมองภาพรวม (Big Picture) ต้องมองภาพรวมให้เป็น เอาตัวถอยออกมาเพื่อศึกษาสภาพแวดล้อมโดยกว้าง หมั่นศึกษา Macro Trend ในปัจจุบันเป็นอย่างไร
2.Identify adaptive challenges ระบุปัญหาที่ต้องการเปลี่ยนแปลงให้ชัดเจน เช่น การตั้งคำถามว่า อะไรคือปัญหาสำคัญ ระหว่างองค์กรหรือพนักงาน? ควรหาคำตอบร่วมกับพนักงาน เพื่อคัดกรองสิ่งที่เป็นปัญหาจริง ๆ และลำดับความสำคัญของปัญหา -ลงมือแก้ไข
3.Regulate distress ปรับแนวคิดเพื่อรับมือกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นจากการปรับตัว คือคำถามจากทั้งตัวเองและพนักงานว่า ทำไมถึงต้องปรับตัว? ตอบคำถามด้วยเหตุผลด้วยการ Turning up the heat (heifetz, 2009) ให้พนักงานเข้าใจว่าทำไมต้องเปลี่ยนแปลง
4.Maintain disciplined attention เป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้างวินัยของการปรับตัว หัวหน้าต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในการ สร้างวินัยด้านการปรับตัว เพราะจะส่งผลดีต่อตนเอง ทีมและองค์กร
5.Give the work back to the people ทำงานให้ใกล้ชิด ปลูกฝังหัวใจของการเป็นเจ้าของธุรกิจให้พนักงาน การเปลี่ยนแปลงมีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว หัวหน้าต้องมีความเชื่อมั่นและผลักดันผลลัพธ์ให้เกิดขึ้นจริง ให้กำลังใจ เสริมแรงจูงใจกระตุ้นให้รู้ว่าพนักงานมีความสำคัญต่อองค์กร
6.Protect leadership voices from below ให้ความสำคัญกับ เสียงเล็กๆของพนักงานทุกคน ต้องรับฟังปัญหาของพนักงานทุกคน
การนำมาปรับใช้กับการทำงานในองค์กร หรือพัฒนาบุคลากรระดับหัวหน้างานให้มีความเป็นผู้นำยุคใหม่แบบ Adaptive Leadership นั้น จำเป็นต้องมีแผนพัฒนา มีเครื่องมือการฝึกอบรม หลักสูตรเสริมสร้างทักษะที่ได้มาตรฐาน สามารถนำมาผสมผสานกันเพื่อพัฒนาบุคลากรสู่การเป็นผู้นำยุคใหม่ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งบริษัท Beyond Training ได้ออกแบบแผนพัฒนาที่ชื่อว่า Adaptive Leadership Series ที่ช่วย “สร้างคนเก่งที่มีภาวะผู้นำสูง” ช่วยพัฒนาบุคลากรในทุกตำแหน่งให้ “เก่งงาน เก่งคน เท่าทันเทรนด์โลก” พร้อมเป็นฟันเฟืองสำคัญในการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับองค์กรยุคใหม่
กระบวนการสร้าง Adaptive Leadership ให้กับบุคลากรในองค์กร จะต้องเริ่มตั้งแต่ “เจาะลึกกระแสโลก (Mega Trend) และทิศทางของธุรกิจ” เพื่อให้ทราบว่าองค์กรต้องเผชิญหน้ากับอะไร เพื่อหา Solution พัฒนากลยุทธ์ให้สอดรับการเปลี่ยนแปลง จากนั้นจึงร่วม วางแนวทางกลยุทธ์องค์กร (Business Direction) และ วางโครงสร้างองค์กร (Organization Design) รวมถึงการ ออกแบบตำแหน่งหน้าที่การทำงานต่าง ๆ (Job Design)
“จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนออกแบบการเรียนรู้ของคนในองค์กร ผ่าน Framework ที่ชื่อ High Impact Development Framework ที่จะเจาะลึกลงไปถึง 8 สมรรถนะ (Competency) ของผู้นำยุคใหม่ (Adaptive Leadership) ประกอบไปด้วย AGILITY, DISRUPTIVE , ATTITUDES , PERSONALIZATION , TECHNOLOGY , INNOVATION , LIVE WELL BEING , EMPATHY ซึ่งการสร้างสมรรถนะเหล่านี้ จะพัฒนาได้ด้วยกลุ่มทักษะที่ถูกร้อยเรียงออกมาเป็นโปรแกรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมตั้งแต่ระดับ Frontline Leadership , Mid-Level Leader ไปจนถึง Senior Leader ผ่านแผนฝึกอบรม (Training Roadmap) ที่นำทฤษฏี 70 : 20 : 10 มาผสมผสาน ทั้งการเรียนรู้จากหลักสูตร (10) การแลกเปลี่ยนประสบการณ์หลังเรียนรู้ (20) รวมถึงการนำความรู้ไปปฏิบัติใช้จริง (70)
ในวิกฤติความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรวมถึงการเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้องค์กรต้องตื่นตัวในการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำให้กับบุคลากร ฉะนั้น การสร้างแผนพัฒนา Adaptive Leadership Series ของ Beyond Training นับเป็นหนึ่งในเครื่องมือพัฒนาคนทำงานให้ก้าวขึ้นมาเป็น “ผู้นำยุคใหม่” ที่เก่งงาน เก่งคน และเท่าทันเทรนด์โลก พร้อมขับเคลื่อนองค์กรไทยให้เติบโตในธุรกิจยุคดิจิทัลใหม่ได้อย่างยั่งยืน” ภก.คงเกียรติ กล่าวในท้ายสุด