ข่าวพลังงาน, สิ่งแวดล้อม - 22 มีนาคม วันน้ำโลก World Water Day
ชอบข่าวนี้?
เพราะ "น้ำ" คือ "ชีวิต" 22 มีนาคม วันน้ำโลก (World Water Day)
“Be the change you want to see in the world.”
ร่วมกันเปลี่ยนแปลง สิ่งที่คุณอยากเห็นในโลกใบนี้
โลกของเราประกอบด้วยพื้นดินและพื้นน้ำ โดยส่วนที่เป็นพื้นน้ำนั้น มีอยู่ประมาณ 3 ส่วน หรือร้อยละ 75และเป็นพื้นดิน 1 ส่วน หรือร้อยละ 25 น้ำมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งมนุษย์ สัตว์ และพืชพันธุ์ต่างๆ
“น้ำ” เป็นแหล่งกำเนิดชีวิตของสัตว์และพืช คนเรามีชีวิตอยู่โดยขาดน้ำได้ไม่เกิน 3 วัน และน้ำยังมีความจำเป็นทั้งในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม รวมถึงสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์
ในปัจจุบันภาวะการขาดแคลนน้ำและปัญหามลพิษในน้ำมีอัตราสูงขึ้นมาก เนื่องจากการเพิ่มจำนวนของประชากรมนุษย์ ส่งผลต่อความต้องการการใช้น้ำ กว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง อย่างน้อยที่สุด 1 เดือนต่อปี
ผลกระทบของมลพิษในน้ำ และการขาดแคลนน้ำ ส่งผลถึงความจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสะอาดของน้ำ โดยในปี 2017 มีการรายงานว่า ประชากรโลกกว่า 3 พันล้านคน ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาด แม้เพียงเพื่อล้างมือในที่พักอาศัยของตน ซึ่งเป็นวิธีการที่ประหยัดและปลอดภัยที่สุดอย่างหนึ่งในการรับมือกับการแพร่กระจายของไวรัสหรือโรคภัยต่างๆ เช่น วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID19)
“น้ำ” ยังมีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) สถานการณ์น้ำในเชิงปริมาณมีแนวโน้มที่จะประเมินและคาดการณ์ได้ยาก หลายพื้นที่มีความแห้งแล้งและการขาดแคลนน้ำทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ทั้งในด้านสุขลักษณะ ความสามารถในการผลิต ความยั่งยืนในการพัฒนา รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลกอีกด้วย
องค์การสหประชาชาติ ตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจก่อให้เกิดปัญหาการแย่งชิงน้ำขึ้นได้ในอนาคต ในปี 1992 สมัชชาสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันที่ 22 มีนาคม ของทุกปีเป็น " วันน้ำโลก " หรือ "World Water Day" เพื่อเน้นย้ำให้เห็นความสำคัญของน้ำ ซึ่งเป็นความต้องการขั้นพื้นฐาน ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลก อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวในหมู่มวลมนุษยชาติ ในเรื่องการอนุรักษ์น้ำ และการพัฒนาแหล่งน้ำ
โดยในปี 2566 ซึ่งเป็นครึ่งทศวรรษแห่งการร่วมลงมือปฏิบัติของทุกประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมาย
การพัฒนาที่ยั่งยืนด้านน้ำและสุขาภิบาล (SDG6 : Clean Water & Sanitation) ซึ่งประเทศสมาชิกมีผลการดำเนินการร่วมกันต่ำกว่าเป้าหมาย องค์การสหประชาชาติจึงกำหนดประเด็นรณรงค์เนื่องวันน้ำโลกประจำปี 2023 ว่า“Accelerating change” หรือ “เร่งการเปลี่ยนแปลง” โดยรณรงค์ให้ทุกภาคส่วน “Be the change you want to see in the world.” หรือ “ร่วมกันเปลี่ยนแปลง สิ่งที่คุณอยากเห็นในโลกใบนี้” เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านน้ำและสุขาภิบาล โดยประเด็นสำคัญที่ประเทศสมาชิกจะแลกเปลี่ยนในการประชุมที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 22 – 24 มีนาคม 2566 ประกอบด้วย 5 ประเด็น ดังนี้
1.Water for health : การเข้าถึงน้ำดื่มสะอาด และถูกสุขอนามัย
2.Water for sustainable development : การใช้น้ำอย่างคุ้มค่า โดยมีการจัดการอย่างสมดุลของน้ำ พลังงาน และอาหาร ในการพัฒนาเศรษฐกิจ และการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
3.Water for climate, Resilience and Environment : การพิจารณาน้ำทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงทะเล ความหลากหลายทางชีวภาพ ภูมิอากาศ การปรับตัว และการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติจากน้ำ
4.Water for cooperation : ความร่วมมือบริหารจัดการน้ำข้ามพรมแดนระว่างประเทศ การพิจารณาน้ำซึ่งเป็นปัจจัยร่วมในทุกประเด็นของการพัฒนาที่ยั่งยืน
5.Water action decade : การเร่งปฏิบัติการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของทศวรรษแห่งการร่วมลงมือปฏิบัติของทุกประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านน้ำและสุขาภิบาล
“เร่งการเปลี่ยนแปลงด้านน้ำ” ความร่วมมือของทุกภาคส่วนเป็นสิ่งสำคัญ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศไทย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นองค์กรบูรณาการการบริหารจัดการร่วมกับกว่า 40 หน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้อง โดยมีแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบพลวัตด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน ประกอบด้วย
1.การบริการน้ำอุปโภคบริโภคที่ได้มาตรฐานอย่างเท่าเทียม
2.การสร้างความมั่นคงและเพิ่มผลิตภาพของน้ำ
3. การลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินจากภัยพิบัติด้านน้ำ
4. การฟื้นฟูป่าต้นน้ำและคุณภาพน้ำ
5.การเสริมความเข้มแข็ง ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของชุมชน
โดยใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และฐานระบบนิเวศ ประกอบกับวิถีทางสังคมและเศรษฐกิจของพื้นที่ รวมถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินงาน เพื่อสร้างสมดุลนํ้า และบริหารจัดการในลักษณะลุ่มนํ้าอย่างเป็นระบบ ด้วยความร่วมมือของภาคีและการมีส่วนร่วมของเครือข่ายทุกภาคส่วน เป็นกลไกสำคัญในการเร่งการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ให้ขับเคลื่อนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งประชาชนสามารถร่วมขับเคลื่อนผ่านการเป็นองค์กรผู้ใช้น้ำ ผ่านคณะกรรมการลุ่มน้ำทั้ง 22 ลุ่มน้ำของประเทศ ที่พร้อมเป็นข้อกลางเชื่อมโยงและขับเคลื่อนทุกพื้นที่
ตามประเด็นที่องค์การสหประชาชาติรณรงค์ “ร่วมกันเปลี่ยนแปลง สิ่งที่คุณอยากเห็นในโลกใบนี้” สทนช. สนับสนุนการรณรงค์เร่งการเปลี่ยนแปลง ด้วยความร่วมมือบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนของทุกภาคส่วน โดยเน้นพัฒนาน้ำดื่มน้ำใช้สะอาดได้มาตรฐาน การใช้น้ำอย่างประหยัดในครัวเรือน สถานศึกษา สถานที่ทำงาน และชุมชน ควบคู่กับการถ่ายทอดแนวคิดและส่งเสริมพลังสร้างสรรค์ของเยาวชน เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและผลลัพธ์ที่ยั่งยืน
ขอเชิญทุกท่านติดตามบทความที่จะทำให้ทุกท่านได้รู้ถึงความเป็นมาและความสำคัญของวันน้ำโลก หรือ วันที่ 22 มีนาคม ของทุกปี โดยในปีนี้ องค์การสหประชาชาติกำหนด Theme ประจำปี 2023 คือ “เร่งการเปลี่ยนแปลง” เพื่อรณรงค์ให้ทุกภาคส่วน “ร่วมกันเปลี่ยนแปลง สิ่งที่คุณอยากเห็นในโลกใบนี้” มาร่วมกันเปลี่ยนแปลงไปด้วยกันนะคะ
https://www.facebook.com/onwrnews/posts/pfbid02sCDu5z1no8WjbdwBb76CSC4PQ6V3mDqvPqegcyp2C2PduSMQbrj7cRPcaqaQs9kCl
ติดตามข้อมูลโครงการกิจกรรมเนื่องในวันน้ำโลก จากสำนักงานทรีัพยากรน้ำแห่งชาติ
ได้ทาง www.onwr.go.th หรือ www.facebook.com/onwrnews