ข่าวพลังงาน, สิ่งแวดล้อม - เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก ปลื้ม กังหันลมผลิตไฟฟ้ารุ่น EW8.X-230 ติดท็อป 10 กังหันลมนอกชายฝั่งแห่งปี 2565 โดยนิตยสารวินด์ พาวเวอร์ มันธ์ลี
เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก (Shanghai Electric) ประกาศว่า กังหันลมผลิตไฟฟ้ารุ่น EW8.X-230 ของบริษัทได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 10 กังหันลมนอกชายฝั่งยอดเยี่ยมประจำปี 2565 (Top 10 Offshore Turbines of the Year 2022) โดยนิตยสาร วินด์ พาวเวอร์ มันธ์ลี (Wind Power Monthly) สื่อชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรมพลังงานลม นับเป็นรางวัลล่าสุดที่ได้รับหลังจากที่ EW8.X-230 ซึ่งเป็นกังหันลมนอกชายฝั่งรุ่นใหม่บนแพลตฟอร์มโพไซดอน (Poseidon) เพิ่งได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนวัตกรรมยอดเยี่ยมโดยผู้ผลิตกังหัน 50 อันดับแรกของจีนเมื่อเดือนกันยายน 2565
EW8.5-230 ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก วินด์ พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (Shanghai Electric Wind Power Group Co., Ltd.) เป็นกังหันลมแบบกึ่งต่อตรง (semi-direct drive) รุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัทที่มุ่งเป้ารองรับการใช้งานบริเวณชายฝั่งของจีนที่มีความเร็วลมต่ำถึงปานกลาง กังหันลมรุ่นนี้ติดตั้งใบพัดคาร์บอนไฟเบอร์ขนาด 100 เมตร พร้อมด้วยเทคโนโลยีเซนเซอร์ โรลเลอร์ (Sensor Roller) อัจฉริยะ อีกทั้งยังออกแบบ ผลิต เดินเครื่องและบำรุงรักษา (O&M) ด้วยระบบดิจิทัลตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ EW8.X-230 ยังใช้ระบบควบคุมลีปเอ็กซ์ (LeapX) รุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัท ซึ่งช่วยลดโหลดการทำงานของทั้งระบบ และสามารถเชื่อมต่ออัจฉริยะกับระบบเฟิงอวิ๋น (Fengyun หรือ iWind) ของเซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริกได้อีกด้วย
กังหันลมผลิตไฟฟ้ารุ่นนี้ได้รับการออกแบบให้ทำงานได้อย่างเสถียรและมีความน่าเชื่อถือสูงในสภาวะความเร็วลมต่ำ จึงเป็นโซลูชั่นที่คุ้มค่าสำหรับการใช้พลังงานลม ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและการออกแบบขั้นสูง EW8.X-230 พร้อมแล้วที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมพลังงานลมนอกชายฝั่ง และช่วยผลักดันให้จีนบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสูงสุดก่อนที่จะลดลงจนบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ในขณะที่ประเทศมุ่งมั่นที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่งเท่ากับหรือถูกกว่าไฟฟ้าจากสายส่ง
EW8.X-230 ให้ผลผลิตไฟฟ้าที่มากขึ้นในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือที่ยอดเยี่ยม ด้วยเทคโนโลยีเซมิ-ไดเรกต์ ไดรฟ์ เชน (semi-direct drive chain) รุ่นใหม่ที่รองรับการรวมระบบ นอกจากนี้ จากการสั่งสมความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการคิดค้นนวัตกรรมและสร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทั้งระบบกังหันและส่วนประกอบหลัก ทำให้เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริกสามารถจัดหาโซลูชันที่ลดต้นทุนกิโลวัตต์ชั่วโมงได้อย่างมีนัยสำคัญตลอดวงจรชีวิตของฟาร์มกังหันลม
ด้วยโรเตอร์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 230 เมตร EW8.X-230 จึงเป็นกังหันลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางโรเตอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดากังหันรุ่นต่าง ๆ และมีพื้นที่กวาดของใบพัด (swept area) เท่ากับสนามฟุตบอลมาตรฐานจำนวน 5.8 สนาม ขนาดที่ใหญ่ขึ้นช่วยให้กำลังขับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ หากคำนวณจากความเร็วลมเฉลี่ยต่อปีที่ 7.5 เมตรต่อวินาที กังหันลมผลิตไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 28 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าต่อปีของครัวเรือนประมาณ 14,500 ครัวเรือน ในขณะที่ลดการใช้ถ่านหินได้เกือบ 10,000 ตัน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 24,000 ตัน
ปัจจุบันมีกังหันลมรุ่น EW8.5-230 แบบเซมิ-ไดเรกต์ ไดรฟ์ จำนวน 47 ตัวเชื่อมต่อกับกริดในมณฑลซานตงทางตะวันออกของจีน โครงการนี้สร้างสถิติโลกในฐานะฟาร์มกังหันลมขนาด 399.5 เมกะวัตต์ที่ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างสั้นที่สุดเพียง 121 วัน นอกจากนี้ยังได้รับการขนานนามว่าเป็นโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งที่มีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าเท่ากับหรือถูกกว่าไฟฟ้าจากสายส่งเป็นโครงการแรกใน "แผนห้าปีฉบับที่ 14" ของมณฑลซานตง และเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลมณฑล อีกทั้งยังเป็นฟาร์มกังหันลมที่มีกังหันลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางโรเตอร์ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.shanghai-electric.com/group_en/
เกี่ยวกับเซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก
บริษัท เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก กรุ๊ป จำกัด (Shanghai Electric Group Company Limited) (SEHK: 2727, SSE:601727) คือผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาโซลูชันระบบอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมระดับอุตสาหกรรมซึ่งดำเนินธุรกิจทั่วโลก บริษัททุ่มเทให้กับพลังงานอัจฉริยะ การผลิตอัจฉริยะ และการบูรณาการความฉลาดทางดิจิทัล นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคาร์บอนต่ำและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ด้วยการบุกเบิกภาคส่วนใหม่ ๆ และส่งเสริมกลไกขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ ๆ โดยมุ่งมั่นที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการบรรลุเป้าหมายปล่อยคาร์บอนถึงเพดานสูงสุดภายในปี พ.ศ. 2573 ก่อนที่จะลดลงจนบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2603 รวมถึงในด้านการผลิตอุปกรณ์พลังงานใหม่ระดับไฮเอนด์ในท้องถิ่น โดยอาศัยโอกาสอันไร้ขอบเขตในระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยไปพร้อมกับพันธมิตรทั่วโลก