รอสักครู่...

  • น.
พื้นที่โฆษณา

ข่าวการศึกษา

ข่าวการศึกษา - รุกคืบเติมไฟ ผู้นำและเยาวชน กระบี่-น่าน


ชอบข่าวนี้?
พื้นที่โฆษณา

อิมเมจิน ไทยแลนด์ รุกคืบเติมไฟ ผู้นำและเยาวชน กระบี่-น่าน เปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ดันชุมชนสู่เป้าหมายพื้นที่สุขภาวะยั่งยืน

อีกหนึ่งก้าวสำคัญ ของการขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะ มุ่งสู่หมุดหมายความสุขอย่างยั่งยืน ทั้งกาย และใจ ของคนทุกเพศทุกวัย เมื่อเร็วๆ นี้ Imagine Thailand Movement โดย ‘ดร.อุดม หงส์ชาติกุล’ ผู้นำการขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะ จากการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ (สสส.) ยกทัพเหล่าผู้นำชุมชน และเยาวชน นักขับเคลื่อนสุขภาวะ ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ กว่า 20 ชีวิต ขึ้นเหนือ ร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนรู้การพัฒนาชุมชนสู่พื้นที่สุขภาวะต้นแบบ กับผู้นำชุมชน และแกนนำเยาวชน ต.เจดีย์ชัย อ.ปัว จ.น่าน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และนำความรู้กลับไปพัฒนาพื้นที่ตนเองให้เป็นพื้นที่สุขภาวะ ปลอดภัยจากปัจจัยเสี่ยง

ดร.อุดม หงส์ชาติกุล กล่าวว่า กิจกรรมนี้เปิดโอกาสให้ผู้นำและแกนนำเยาวชนของทั้งสองพื้นที่ ได้มาเรียนรู้ร่วมกัน และจะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการวางแผนยุทธศาสตร์ที่จะเคลื่อนไปข้างหน้า ในเรื่องของการพัฒนาตำบลของตนเองให้เป็นตำบลสุขภาวะต้นแบบต่อไป ซึ่งในแต่ละชุมชนก็จะมีจุดเด่นของตัวเอง ทำอย่างไรให้นำจุดเด่นนั้นมาส่งเสริมให้เกิดสุขภาวะ ส่งเสริมให้เกิดการกินดีอยู่ดี มีความสุขทั้งกายใจ ซึ่งคงเป็นโจทย์ใหญ่ ที่ทุกคนสามารถนำจุดแข็งของชุมชนตนเองขึ้นมาขยายผล และทำงานร่วมกันในอนาคต

“เป้าหมายสำคัญอยากให้เกิดพื้นที่ที่ชวนผู้นำ เด็ก และทุกคนในชุมชน มาร่วมกันพัฒนาพื้นที่ตนเองเป็นพื้นที่ สุขภาวะ ให้ชุมชนมีพื้นที่ปลอดภัย เยาวชนได้มาเรียนรู้ร่วมกับผู้ใหญ่ และเป็นชุมชนต้นแบบ เพื่อสร้าง แรงบันดาลใจให้พื้นที่อื่นๆ นำไปต่อยอดขยายผล ให้เกิดพื้นที่สุขภาวะในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น”

สำหรับกิจกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้ “โครงการพัฒนาพื้นที่สุขภาวะเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ” โดย อิมเมจิน ไทยแลนด์ฯ เข้าไปพัฒนาให้ความรู้กับผู้นำ และเยาวชน ในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และมีการสร้างผลงานขึ้น ในพื้นที่ของตนเอง และเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน จึงได้มีการเชื้อเชิญ เหล่าผู้นำและเยาวชน ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ทั้งผู้ใหญ่บ้าน บ้านท่ามะพร้าว ผู้แทนจากเทศบาลตำบลคลองพนพัฒนา ผู้อำนวยการ รร. คุณครู และนักเรียน โรงเรียนบ้านท่ามะพร้าว และโรงเรียนบ้านคลองไคร มาศึกษาดูงาน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในพื้นที่ ต.เจดีย์ชัย อ.ปัว จ.น่าน ระหว่างวันที่ 10-12 มีนาคม 2566

บรรยากาศในวงสนทนาเป็นไปอย่างอบอุ่น ระหว่าง เยาวชน ตั้งแต่ระดับประถมปลาย และม.ต้น จากร.ร.บ้าน ปงสนุก - ร.ร.บ้านนาวงศ์ ต.เจดีย์ชัย จ.น่าน และเยาวชน จากร.ร.บ้านท่ามะพร้าว-ร.ร.บ้านคลองไคร ต.คลองพน จ.กระบี่ ที่ต่างหยิบยกประสบการณ์ในการขับเคลื่อนเรื่องการกำจัดขยะในชุมชน และปัญหายา เสพติด มาเล่าสู่กันฟัง โดยภาพรวม เยาวชน จาก จ.น่าน ฉายภาพให้เห็นความตั้งใจในการแก้ปัญหายาเสพติดโดยเฉพาะ เหล้าและบุหรี่ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในชุมชน พวกเขาได้ร่วมกันรณรงค์ โดยการทำป้ายโปสเตอร์ ติดที่ร้านค้าในชุมชน ขอความร่วมมือไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี พร้อมให้เกียรติบัตรแก่ร้านที่ให้ความร่วมมือ รวมทั้งพัฒนาสถานที่จุดเสี่ยงให้เป็นจุดเช็คอิน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด ส่วนเยาวชน จาก จ.กระบี่ เล่าถึงการแก้ปัญหาขยะในชุมชน ด้วยการรณรงค์ให้มีการคัดแยกขยะจากต้นทาง เพื่อลดปัญหา โดยแบ่งเป็นขยะเปียก ขยะรีไซเคิล ขยะอันตราย ส่วนขยะพลาสติกอย่างพวกขวดน้ำ สามารถนำไปขายสร้างรายได้ นอกจากนี้ยังร่วมกันปลูกป่าชายเลนเพื่อเป็นที่อยู่ของสัตว์น้ำ และยังทำธนาคารปูม้า ปล่อยปูม้าลงทะเลเพื่อเป็นการอนุรักษ์ อีกด้วย

ด.ญ.ศุภดารัตน์ อรุณวัฒนานันท์ นักเรียนชั้นป.6 ร.ร.บ้านปงสนุก เล่าว่า ทางรร. ทำเกี่ยวกับยาเสพติด มีการรณรงค์ให้ชุมชนไม่ขายบุหรี่และสุราให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ทำเรื่องนี้เพราะในชุมชนมีคนติดสุรา และยาเสพติดกันมาก ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพ โดยในชุมชนมีร้านค้า 7-8 ร้าน คิดว่าน่าจะได้ผลบ้างถึงไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็เชื่อว่า มีบางร้านที่ไม่ขายให้เด็ก ต่อไปจะทำเรื่องขยะ เนื่องจากมีขยะบางชิ้นตกอยู่ตามข้างทาง ที่ผ่านมาใช้วิธีเก็บไปทิ้งในถังขยะ แต่จากที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ทำให้ได้ความรู้จากเพื่อนที่จ.กระบี่ ซึ่งเขามีวิธีการจัดการที่น่าสนใจ จะลองเอาไปปรับทำดูบ้าง

ด้าน ด.ญ.รัตดาวัลณ์ กูลหลัก นักเรียนชั้นป.6 ร.ร.บ้านท่ามะพร้าว เล่าว่า จากการพูดคุยกับเพื่อนจาก จ.น่าน ได้ข้อมูลเรื่องยาเสพติด พวกเหล้า บุหรี่ ซึ่งมีการรณรงค์ห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า18 ปี ในเรื่องนี้เป็นประโยชน์กับพวกหนูมาก เพราะในชุมชนมีปัญหาเรื่องน้ำกระท่อม จะอาจนำความรู้ไปดัดแปลง บอกคนขายว่าห้ามขายเพราะเป็นสิ่งไม่ดี คล้ายๆกับยาบ้า ส่วนความรู้ที่นำไปแชร์ให้เพื่อนฟัง คือ เรื่องการจัดการขยะและการปลูก ป่าชายเลน ซึ่งเพื่อนที่น่านสนใจ คิดว่าโครงการแลกเปลี่ยนแบบนี้ดีมาก เพราะจะได้นำความรู้ไปปรับปรุงในหมู่บ้านของแต่ละคนด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการพบปะและร่วมฟังประสบการณ์การทำงานของกลุ่มผู้นำ ต.เจดีย์ชัย ณ ลานวัดลานสุขภาพชุมชน วัดวังม่วง โดยมีผู้นำหลายภาคส่วนเข้าร่วม แชร์เส้นทางความสำเร็จการพัฒนาเจดีย์ชัยสู่ตำบลสุขภาวะต้นแบบ อาทิ นายฤทธิเดช ยะแสง กำนัน ต.เจดีย์ชัย นายสมศักดิ์ คำเขื่อน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเจดีย์ ว่าที่ร้อยโทมิตร จิตอารี ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลเจดีย์ชัย เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งความโดดเด่นของชุมชนแห่งนี้ คือ เรื่องการใช้ “ธรรมนูญตำบล” ขับเคลื่อนชุมชน การจัดการสุขภาวะในเรื่องอาหารปลอดภัย เรื่องปัญหายาเสพติด รวมถึงการจัดการขยะ และเรื่องอื่นๆ ซึ่งความสำเร็จเกิดจากความเข้มแข็งของผู้นำ และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

นายสุบิน นิยมเดชา ผู้อำนวยการ ร.ร.บ้านท่ามะพร้าว บอกว่า ดีใจแทนเด็กๆ จากกระบี่ที่ได้มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เพราะเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามาก ลำพัง รร.คงไม่มีโอกาสพาเด็กๆ ข้ามทะเลข้ามภูเขา มาเก็บเกี่ยวความรู้ดีๆ ไกลถึงจ.น่าน และการที่เด็กทั้งสองโรงเรียนที่ทำเขาในเรื่องเดียวกัน คือ การขับเคลื่อนพื้นที่สุขภาวะ ได้มารู้จัก และนำความรู้มาแลกเปลี่ยนกัน มันช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และผลักดันให้พวกเขาลุกขึ้นมาพัฒนาชุมชนตนเอง ในส่วนตัวผมจะนำความรู้เรื่องธรรมนูญชุมชน ไปปรับใช้ในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องการจัดการขยะ มองว่าสิ่งที่ชุมชนเจดีย์ชัยประสบสำเร็จ คือ ความร่วมมือของทุกฝ่าย มีธรรมนูญตำบล ที่เป็นข้อตกลงร่วมกัน ผมคิดว่าบ้านท่ามะพร้าวสามารถกำหนดข้อตกลงคล้ายๆ กัน เพราะตอนนี้บ้านท่ามะพร้าวก็เด่นในเรื่องทำงานรูปแบบ บรม คือ บ้าน มัสยิด และร.ร. ขณะเดียวกัน ร.ร.บ้านท่ามะพร้าวก็รณรงค์ให้นักเรียนคัดแยกขยะอยู่แล้ว

และกิจกรรมครั้งนี้ คณะผู้นำและเยาวชนจากจ.กระบี่ ยังได้มีโอกาส ไปศึกษาเรียนรู้การคัดแยกขยะของเทศบาลเมืองน่าน ที่ถนนคนเดินข่วงเมืองน่าน ซึ่งได้รับรางวัลมาตรฐานเมืองสะอาดอาเซียน ASEAN Clean Tourist City Standardและได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองต้นแบบในโครงการเสริมสร้างความยั่งยืนของการพัฒนาเมืองในอนาคต โดยมีคุณจรรยา ลัมมะวิจัย นักวิชาการสุขาภิบาลปฏิบัติการ เทศบาลเมืองน่าน มาให้ความรู้ และเล่ากระบวนการจัดการขยะของเทศบาลให้กับเด็กๆ ฟัง

ทั้งหมดนี้คงทำให้เห็นแล้วว่าพื้นที่สุขภาวะต้นแบบ 2 ชุมชน ทั้งต.คลองพน และต.เจดีย์ชัยนั้น ต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือ ทำให้คนในชุมชนทุกเพศทุกวัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยมีสุขภาพกาย-ใจสมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ ซึ่งจะประสบความสำเร็จได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือร่วมใจกัน ติดตามการขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะได้ที่ Facebook Fan page: Imagine Thailand Movement และ Website : https://www.imaginethailandmovement.com


"ข่าวประชาสัมพันธ์ ทันทุกกระแส" กับ @PRNewsThailand

เพิ่มเพื่อน
พื้นที่โฆษณา

แสดงความคิดเห็น

พื้นที่โฆษณา
พื้นที่โฆษณา