ข่าวการศึกษา - มหาวิทยาลัยมหิดลจับมือ EDDU สตาร์ทอัพ EdTech เพิ่มความแข็งแกร่งนักธุรกิจรุ่นใหม่ด้วย Data for Entrepreneur
สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (iNT)ร่วมกับEDDU Group Internationalจัดหลักสูตร “Data for Entrepreneur”ให้กับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมหิดล ที่มีความสนใจทางด้านธุรกิจ พร้อมวิทยากร “อาจารย์นพ-พงศธร ธนบดีภัทร”CEO&CO-FounderบริษัทFINNXเจ้าของธุรกิจStartupเบอร์ต้นของเมืองไทยผู้นำDataมาใช้ในการทำงานจนทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วและมีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีและเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
รองศาสตราจารย์ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (iNT)เปิดเผยว่าiNTได้ร่วมกับEDDU Group International (www.eddu.org)จัดหลักสูตร “Data for Entrepreneur”ให้กับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมหิดล ที่มีความสนใจทางด้านธุรกิจ โดยได้รับเกียรติจากอาจารย์นพ พงศธร ธนบดีภัทรCEO&CO-FounderบริษัทFINNX (www.refinn.com)ซึ่งเป็นธุรกิจStartupที่มีการนำDataมาใช้ในการทำงานจนทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วและมีมูลค่ามากกว่า500 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีและยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
โดยหัวใจสำคัญของการใช้Dataมาพัฒนาธุรกิจในปัจจุบันประกอบด้วย การทำData AnalyticsและการทำData Visualizationไปสร้างให้เกิดData Driven Marketingที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดกับธุรกิจ นอกจากนี้ผู้บริหารรุ่นใหม่มักให้ความสำคัญกับData Analyticsเพราะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจมองเห็นโอกาสใหม่ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ ในหลายองค์กรยังนำDataมาช่วยคิดกลยุทธ์ต่างๆ ที่สามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่าปกติจนทำให้ธุรกิจโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในทางการตลาดนั้นDataก็มีบทบาทช่วยสร้างแคมเปญการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะDataช่วยให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย พร้อมกับทำให้รู้แนวโน้มพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างแคมเปญมารองรับพฤติกรรมเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี
สำหรับขั้นตอนการทำData Analyticsสามารถเริ่มด้วย 6 ขั้นตอนเบื้องต้นดังนี้ 1.รู้จักและเข้าใจปัญหาของธุรกิจ 2.มีการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญหา 3.จัดข้อมูลอย่างเป็นระบบ พร้อมกับตรวจเช็กข้อมูลให้ถูกต้อง 4.ทำการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างข้อมูลเชิงลึกในรูปแบบต่างๆ 5. นำข้อมูลที่ได้ไปปรับใช้และทดลองใช้ และ6.ติดตามผลลัพธ์และนำมาปรับปรุง ทั้งนี้หากสามารถเริ่มต้นและทำตามขั้นตอนนี้ได้ก็จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นเพียงแค่รู้จักการใช้Dataซึ่งถือเป็นสิ่งที่นักธุรกิจรุ่นใหม่หรือคนที่สนใจด้านนี้ควรให้ความสำคัญ
“อีกหนึ่งตัวอย่างให้เห็นภาพของการนำDataมาใช้หากวันนี้คุณเป็นผู้บริหารขององค์กรและได้รับโจทย์มาจากนักลงทุนว่าต้องเพิ่มยอดขายให้ได้มากขึ้นอย่างน้อย 2 เท่า หากลองคิดแบบเร็วๆ ก็อาจจะใช้วิธีเน้นเพิ่มลูกค้า สมมติปกติธุรกิจสามารถสร้างยอดขาย 1 ล้านบาท จากลูกค้า 1,000 คน และโจทย์ก็คือต้องได้ยอดขายมากขึ้น 2 เท่า นั่นก็คือต้องทำให้ได้ยอดขายอย่างน้อย 2 ล้านบาท หากเลือกใช้วิธีเน้นเพิ่มลูกค้า ก็ต้องหาลูกค้าเพิ่มอีก 1,000 คน และทีมที่จะมารับผิดชอบงานส่วนนี้ ก็คือทีมการตลาด พร้อมกับต้องเพิ่มงบให้ทีมการตลาดในการหาลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่ในความจริงแล้วการทำธุรกิจนั้นมีหลายตัวแปรไม่ใช่แค่การเพิ่มงบการตลาดแล้วจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเพียงอย่างเดียว อย่างเช่นร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ในไทยที่ทุกคนรู้จักดี ก็มีการจัดแคมเปญในเรื่องของการสะสมแสตมป์ในช่วงปลายปีซึ่งตรงนี้เป็นการทำให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้ามากขึ้นแถมยังช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาถี่มากขึ้นด้วย เช่น ถ้าลูกค้าต้องการที่จะซื้อแชมพู แต่อยู่ในช่วงสะสมแสตมป์และทุกครั้งที่ซื้อครบอย่างน้อย 40 บาทก็จะได้แสตมป์1 ดวง ร้านสะดวกนี้ก็อาจจะเป็นตัวเลือกหลักที่ลูกค้ากลับมาซื้อ แคมเปญนี้ทำให้ร้านสะดวกซื้อประสบความสำเร็จในการดึงดูดลูกค้าและการเพิ่มยอดซื้อสินค้าต่อบิล” รองศาสตราจารย์ดร.ยศชนัน กล่าว
อย่างไรก็ตามสำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้แคมเปญดังกล่าวประสบความสำเร็จได้นั่นก็คือการวิเคราะห์จากข้อมูลและพิจารณาว่าตัวแปรใดที่ทำให้เป้าหมายสำเร็จได้ซึ่งนี่ก็คือตัวอย่างของการใช้Dataมาวิเคราะห์แล้วนำมาวางแผนกลยุทธ์ในการทำการตลาดที่เรียกว่าData Driven Marketingการใช้ประโยชน์จากDataนั้นสามารถทำได้หลายมิติไม่ว่าจะเป็นการทำData AnalyticsหรือData Visualizationซึ่งเป็นอีกวิธีที่ดีในการนำมาเสริมสร้างธุรกิจให้แข็งแรงขึ้น ในWorkshopครั้งนี้จะพูดถึงประเด็นสำคัญของการนำDataมาสร้างโอกาสทางธุรกิจ พร้อมยกตัวอย่างให้เข้าใจมากขึ้น
นอกจากนี้ภายในงานยังมีHighlightสำคัญที่อาจารย์นพ พงศธร ได้ร่วมเป็นที่ปรึกษาให้กับนักศึกษาได้ฝึกการนำเสนอข้อมูลอย่างใกล้ชิดเพื่อเป็นไปตามแผนพัฒนาธุรกิจStartupที่มหาวิทยาลัยมหิดลมุ่งเน้นในการสนับสนุนนักศึกษาให้มีEntrepreneurshipและสร้างEcosystemธุรกิจขึ้นมาและอีกหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่จะทำให้นักศึกษามีEntrepreneurshipที่ดีคือการรู้จักสร้างโอกาสให้ธุรกิจจากDataเพราะการทำการตลาดเเบบเดิมๆ แล้วคาดหวังให้ธุรกิจยั่งยืนนั้นเป็นเรื่องที่ยากDataจึงเข้ามามีบทบาทในธุรกิจ การตลาด และการบริหาร ซึ่งไม่ใช่เเต่องค์กรขนาดใหญ่ที่ใช้ประโยชน์จากDataแต่ธุรกิจStartupและSMEธุรกิจออนไลน์ก็หันมาใช้Dataในการพัฒนาธุรกิจเช่นกัน