ข่าวการศึกษา - วิศวะมหิดล เปิดโลกวิศวกรรม 2023 ต้อนรับเยาวชนและครูโรงเรียนอัสสัมชัญ
ก้าวสู่มิติใหม่ของ ‘โลกวิศวกรรม 2023’ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (Mahidol Engineering) พบปะและนำเยาวชนและครู โรงเรียนอัสสัมชัญ (Assumption College) สัมผัสประสบการณ์ของเทคโนโลยีและวิศวกรรมแห่งอนาคตซึ่งมีบทบาทสูงในการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์การศึกษายุคใหม่ สังคม และเศรษฐกิจดิจิทัล ในโอกาสที่เดินทางเยี่ยมชมนวัตกรรมและห้องปฏิบัติการวิจัย ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (Mahidol Engineering) กล่าวว่า ยินดีอย่างยิ่งที่ได้เปิดบ้านต้อนรับเยาวชนนักเรียนและครู โรงเรียนอัสสัมชัญ (Assumption College) ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่มีประวัติการก่อตั้งและชื่อเสียงมายาวนาน 145 ปี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความสำคัญต่อพลังสร้างสรรค์ของเยาวชนคนรุ่นใหม่ โดยเรามีวิสัยทัศน์ก้าวสู่การเป็น World-Class Engineering ซึ่งปัจจุบันได้รับการรับรองคุณภาพหลักสูตรมาตรฐานโลกจาก Accreditation Board for Engineering and Technology หรือ ABET แห่งสหรัฐอเมริกา รวดเดียวถึง 6 หลักสูตร ป.ตรี ซึ่งนับว่ามากที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ 1. หลักสูตรวิศวกรรมชีวการแพทย์ (นานาชาติ) 2. หลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ 3. หลักสูตรวิศวกรรมเคมี 4. หลักสูตรวิศวกรรมเครื่องกล 5. หลักสูตรวิศวกรรมไฟฟ้า 6. หลักสูตรวิศวกรรมโยธา ทั้งนี้มาตรฐาน ABET เป็นกลไกสำคัญในการยกระดับการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ของไทย บ่มเพาะวิศวกรคนรุ่นใหม่ของไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดแรงงานโลก เพิ่มโอกาสการทำงานในนานาประเทศ หรือศึกษาต่อได้ทัดเทียมกับวิศวกรต่างชาติ
ผศ.ดร.พรทิพย์ แก่งอินทร์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (Mahidol Engineering)กล่าวว่า เยาวชนนักเรียนและครู โรงเรียนอัสสัมชัญ (Assumption College) ได้เข้าชมนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ อุปกรณ์การแพทย์ และห้องปฏิบัติการล้ำสมัยต่างๆของ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็น Eco Systems สำคัญที่สร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ บ่มเพาะสร้าง ‘วิศวกรแห่งอนาคต’ ยกระดับนวัตกรด้วยทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลง ออกแบบอนาคตที่สดใส และโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น อาทิ
1.BART LAB ศูนย์เครือข่ายวิจัยประยุกต์เทคโนโลยีหุ่นยนต์และชีวการแพทย์แห่งแรกของไทย และ BioSensor Lab 2.Innogineer Studio เปรียบเสมือนเวิร์คช็อป ครบครันเครื่องมือไฮเทคที่เปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีและเมคเกอร์สามารถเข้ามาทำโปรเจคต่างๆ บ่มเพาะสตาร์ทอัพ สร้างชิ้นงานและต้นแบบจากความคิดสร้างสรรค์ จากความฝันสู่ความเป็นจริง 3. Innogineer BAY ศูนย์ฝึกหัดด้านหุ่นยนต์และระบบ AI ที่ทันสมัยระดับโลก 4.BCI LAB ห้องปฏิบัติการเชื่อมต่อสัญญาณสมองด้วยคอมพิวเตอร์ (Brain-Computer Interface Lab) 5. ศูนย์ทดสอบความเข้ากันได้ทางชีวภาพของเครื่องมือการแพทย์ (Biocompatibility Testing of Medical Device Lab) มาตรฐานโลก 6. ห้องปฏิบัติการชีวพอลิเมอร์และวิศวกรรมนาโน (BioNEDD Lab) 7. ห้องปฏิบัติการเฉพาะทางภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล ออกแบบวิจัยสิ่งประดิษฐ์ เครื่องจักรในการผลิต ธุรกิจอุตสาหกรรม และการแพทย์ยุคใหม่
8.ศูนย์ LogHealth ศึกษาวิจัยและออกแบบพัฒนาระบบโลจิสติกส์โรงพยาบาล และจัดทำแผนแม่บทระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารภาคสาธารณสุขของประเทศ (HealthCare Logistics Big Data) 9. FlexLab ห้องปฏิบัติการวิจัยวิศวกรรมอุตสาหการ 10.Functional Food and Beverages Lab ศูนย์ออกแบบวิจัย-ผลิตอาหารและเครื่องดื่มแห่งอนาคต11. Digital Forensics Lab & Innovation Training Center ศูนย์พัฒนานวัตกรรมและฝึกอบรมนิติวิทยาดิจิทัล ภารกิจสืบค้นแกะรอยอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์สำหรับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 12. ศูนย์ปฏิบัติการวิศวกรรมไฟฟ้า เช่น Electrical Energy System Lab, Electronics Lab, E-Novation Lab, Data Communication & Network Lab, Telecom System Lab, Electrical Circuit Lab, Control System & Automation Lab 13. ห้องปฏิบัติการวิศวกรรมเคมี ที่ส่งเสริมการคิดค้นวัสดุและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ 14. ห้องปฏิบัติการวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์เมืองและการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นต้น