รอสักครู่...

  • น.
พื้นที่โฆษณา

ข่าวความงาม

ข่าวความงาม - 5 เรื่องเข้าใจผิด เกี่ยวกับ โบท็อกซ์


ชอบข่าวนี้?
พื้นที่โฆษณา

5 เรื่องเข้าใจผิด เกี่ยวกับ "โบท็อกซ์"

ประเด็นเรื่องการเข้าใจผิดเกี่ยวกับโบท็อกซ์ เป็นเพราะคนทั่วไปยังได้รับความรู้และความเข้าใจไม่มากพอเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกซ์บนใบหน้า ทำให้บางคนเกิดความเชื่อผิดๆ และกลัวการฉีดโบท็อกซ์ ทั้งๆที่ถ้าหากศึกษาดีๆแล้วนั้นโบท็อกซ์ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด วันนี้จะมาแชร์เรื่องราวที่รวบรวมมาจากคนที่เข้าใจเรื่องโบท็อกซ์ที่ไม่ถูกต้องในบทความนี้กันค่ะ

1.โบท็อกซ์แท้หรือโบท็อกซ์หิ้วก็เหมือนกันไม่ได้อันตราย!?

บอกเลยว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดมากจริงๆ เพราะโบท็อกซ์เป็นสารสกัดที่ต้องอยู่ในอุณหภูมิ 2-8 องศาตลอดเวลา ถ้าไม่ได้รับการควบคุมอุณหภูมิที่ดีแล้วนั้น จะทำให้โบท็อกซ์เสื่อมสภาพหรือปนเปื้อน หากฉีดเข้าไปก็อาจทำให้เสี่ยงต่อการดื้อยาในครั้งต่อไปได้

2.โบท็อกซ์ทำไมต้องผสมน้ำเกลือก่อนฉีด ?

เป็นสิ่งที่คนมักเข้าใจผิดกัน เพราะโบท็อกซ์แท้ทุกยี่ห้อถูกบรรจุมาในรูปของผงสีขาว ทำให้เมื่อคุณหมอจะฉีดเข้าไปจึงจำเป็นต้องผสมน้ำเกลือลงไปละลายถึงจะดูดตัวยาออกมาฉีดได้ แต่หากอยากตรวจสอบว่าโบท็อกซ์ที่ฉีดเป็นของแท้หรือไม่ แนะนำให้เช็ค QR Code หรือรหัสการนำเข้าจากบริษัทที่ระบุข้างกล่อง และต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ

3.ใช้ยูนิตเยอะ ยิ่งดี ยิ่งคุ้ม จริงหรือ?

คนไข้จำนวนมากมักเปรียบเทียบราคาและจำนวนยูนิตที่ได้รับจากแต่ละคลินิก และเลือกไปคลินิกที่ได้จำนวนยูนิตมากกว่า ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด!!!

มีคนไข้จำนวนมากเข้ามาหาหมอแล้วบอกว่าอยากฉีดโบท็อกซ์กรามข้างละ 100 unit อยากฉีดริ้วรอย 200 unit ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานมักบอกจำนวนยูนิต“เกินที่ใช้จริง”เพื่อให้คนไข้รู้สึกว่าคุ้ม ได้ยาเยอะ แต่จริงๆแล้วทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า “รักเกินรักมักจะทำลาย…อะไรที่มากไปก็มักจะเกินความพอดี”

สามารถนำมาปรับใช้ในเรื่องนี้ได้เช่นกัน การอัดโบท็อกซ์ในปริมาณที่เยอะไม่ได้ทำให้ผลลัพธ์อลังการ แต่อาจจะทำให้เกิดเอฟเฟกต์ตามมาทีหลังได้ เช่น หนังตาตก คิ้วกระดก หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยวเป็นได้ เพราะฉะนั้น ฉีดโบท็อกยิ่งเยอะยิ่งดีจริงเหรอ ? ก็ตอบได้เลยว่า ไม่จริงค่ะ!… ฉีดได้แต่ต้องพอดี ตามที่คุณหมอแนะนำจะดีที่สุด

4.ฉีดโบท็อกซ์บ่อยแล้วจะไม่ได้ผล จะดื้อยา?

เนื่องจากโบท็อกซ์เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่สกัดจากแบคทีเรีย คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ทำให้สามารถอยู่ในร่างกายของเราได้เป็นเวลาประมาณ 3-12 เดือน จากนั้นร่างกายจึงค่อย ๆ สลายโบท็อกซ์ไปได้เอง เมื่อเวลาผ่านไป 6 – 12 เดือน และด้วยสาเหตุนี้เอง การฉีดโบท็อกซ์ จึงจำเป็นต้องฉีดซ้ำอยู่เรื่อย ๆ ทำให้แต่ละครั้งที่เราฉีดนั้นจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน บางครั้งอาจจะได้ผลดี บางครั้งอาจจะได้ผลไม่แตกต่างจากเดิมมาก แต่บางทีก็อาจจะไม่ได้ผลเลย เกิดเป็นคำถามในใจว่า ฉีดโบท็อกซ์แล้วจะดื้อยาจริงไหม?

ปัจจัยที่ทำให้เกิดการดื้อยานั่นก็คือ การฉีดโบท็อกซ์ที่ไม่ผ่านอย. มีการปนเปื้อนของโปรตีนมากเกินไป ร่างกายเราจึงสร้างแอนติบอดี้ขึ้นมาทำลายสิ่งแปลกปลอม ทำให้โบท็อกที่เราฉีดไปออกฤทธิ์หรือทำงานได้ไม่เต็มที่ และสุดท้ายถามว่าฉีดโบท็อกแล้วจะดื้อยาจริงไหม? บอกได้เลยว่า การฉีดโบท็อกซ์ โดยที่เน้นอัดปริมาณเยอะ ๆ ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดื้อยาได้ อย่างที่ได้บอกไว้ในตอนต้นว่า “อะไรที่มากไปก็มักจะเกินความพอดี”

5.โบท็อกซ์แก้ปัญหาร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ใต้ตาได้ จริงหรือ?

หน้าที่หลักของโบท็อกซ์ คือ การ “คลายกล้ามเนื้อ” ดังนั้นปัญหาที่โบท็อกซ์แก้ได้ดี คือ ริ้วรอยจากการหดเกร็งหรือการขยับกล้ามเนื้อในขณะแสดงสีหน้า เช่น ตีนกา หน้าผาก หว่างคิ้ว แต่ในกรณีของร่องแก้มหรือร่องใต้ตา ปัญหาพวกนี้เกิดจากปริมาตรของไขมันหรือกระดูกที่หายไปบริเวณนั้น ดังนั้นโบท็อกซ์จึงไม่เหมาะกับการแก้ไข แต่เหมาะกับการใช้ฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มมากกว่านั่นเอง

สำหรับสาวๆที่สนใจฉีดโบท็อกซ์ ต้องการแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ให้ผิวดูกระชับ กรอบหน้าดูชัดขึ้น ดูคมขึ้น ติดต่อเข้ามารับคำปรึกษาและทำการฉีดได้ที่ The Aura House Clinic เรื่องความปลอดภัยให้คุณมั่นใจในคุณภาพและผลลัพธ์หลังการรักษา ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกเคส เข้ามาเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ หรือผู้ที่กำลังมองหาตัวช่วยเรื่องผิวโดยเฉพาะแนะนำเลยค่ะ

#TheAuraHouseClinic #ป้ายยา #โบท็อกซ์#botox


"ข่าวประชาสัมพันธ์ ทันทุกกระแส" กับ @PRNewsThailand

เพิ่มเพื่อน
พื้นที่โฆษณา

แสดงความคิดเห็น

พื้นที่โฆษณา
พื้นที่โฆษณา